ข้อสอบ 50 ข้อ
1 ) ปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำแข็งหนัก 10.9 g กลายเป็นน้ำได่หมดที่อุณหภูมิ จะสามารถทำให้เอทานอล กี่กรัม เปลี่ยนจากของแข็งเป็นของเหลวได้หมด ณ
อุณหภูมิจุดเยือกแข็งของเอทานอล (กำหนดให้ – ความร้อนแฝงของการหลอมเหลวของน้ำและเอทานอลเท่ากับ
335 และ 109 J/g ตามลำดับ)
2 ) บอลลูนลูกหนึ่งบรรจุฮีเลียมเข้าไป
0.095 mol มีปริมาตร 1.90 ถ้าเติมไฮโดรเจนเข้าไปอีก
0.125 mol โดยให้ความดันและอุณหภูมิคงที่
บอลลูนจะมีปริมาตรเป้นกี่ลูกบาศก์เดซิเมตร
3 ) ข้อความเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสารที่อุณหภูมิห้อง
ข้อใดผิด
4 ) การทำให้แก๊สเป็นของแข็งเร็วขึ้น
นอกจากจะลดอุณหภูมิแล้ว ยังใช้วิธีในข้อใดร่วมด้วย
5 ) แก๊สในข้อใดมีปริมาตรเท่ากับแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์หนัก
16 g ปริมาตรทั้งหมดวัดที่อุณหภูมิและความดันเดียวกัน
6 ) ของเหลวใดมีค่าความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอสูงสุด
และเมื่อเปลี่ยนสถานะเป้นแก๊ส สารใดจะมีอัตราการแพร่สูงสุดในสภาวะเดียวกัน
ของเหลว
มวลโมเลกุล
จุดเดือด ( °C)
A
78.1
80.1
B
142.6
197.5
C
168.4
222.0
D
215.5
174.0
ความร้อนแฝงกลายเป็นไอสูงสุด
อัตราการแพร่สูงสุด
A
A
ความร้อนแฝงกลายเป็นไอสูงสุด
อัตราการแพร่สูงสุด
C
B
ความร้อนแฝงกลายเป็นไอสูงสุด
อัตราการแพร่สูงสุด
D
C
ความร้อนแฝงกลายเป็นไอสูงสุด
อัตราการแพร่สูงสุด
C
A
7 )
แก๊สสมบูรณ์
น้ำหนัก ( g)
P
(atm)
V
(dm 3 )
T
(°C)
ก
2.73
0.70
3.0
47
ค
0.14
0.112
1.0
0
ข
2.73
0.51
3.2
27
จากข้อมูลในตารางข้างบน
การเรียงลำดับอัตราเร็วในการแพร่ของแก๊สทั้งสามชนิดจากมากไปน้อยเป็นข้อใด
8 ) เมื่ออัดอากาศที่มี ในอัตราส่วน 5 : 1 โดยปริมาตร ในถังที่มีความจุ 1000 ที่
27 °C ให้มีความดัน 100 atm แล้วลดอุณหภูมิลงถึง
- 183 °C จน กลายเป็นของเหลวหมดพอดี
ความดันภายในถังขณะนี้มีค่าเท่าใด กำหนดให้
ออกซิเจนเหลวมีปริมาตรน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดของถัง
9 ) บรรจุแก๊สชนิดหนึ่งหนัก
2.20 g ที่ STP ในภาชนะที่มีปริมาตรค่าหนึ่ง
แต่ถ้าบรรจุแก๊สออกซิเจนในภาขนะที่มีปริมาตรเท่ากับใบแรกพบว่าหนัก 1.60 g
ที่ STP มวลโมเลกุลของแก๊สดังกล่าวมีค่าเท่าใด
10 ) จุดเดือดปกติของสาร
A, สาร B และสาร C เท่ากับ 35 °C, 65 °C และ 56 °C ตามลำดับ คำกล่าวใดถูกต้อง
11 ) พิจารณากราฟความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วเฉลี่ยและสัดส่วนจำนวนโมเลกุลของแก๊สที่อุณหภูมิต่าง
ข้อใดสรุปถูก
12 ) ในการทดลองเกี่ยวกับการละลายต่อไปนี้ใช้สาร
1 g ในน้ำ 10 เท่ากัน
สาร
มวลโมเลกุล
อุณหภูมิของสารละลาย °C
น้ำบริสุทธิ์
18
30(ใช้เป็นตัวทำละลาย)
X
40
40
Y
100
45
Z
53
25
ข้อใดถูก
13 ) ขั้นตอนในกระบวนการทำน้ำแข็งแห้งจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ประกอบด้วย
ก. ทำให้แห้งและบริสุทธิ์ ข.
อัดผ่านรูพรุน ค. เพิ่มความดันและลดอุณหภูมิ
การเรียงลำดับขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นสุดท้าย
ข้อใดถูก
14 ) ในการสอนวิทยาสาสตร์ชั่งโมงหนึ่ง
ครูได้สาธิตโดยใช้ปั๊มดูดอากาศออกจากหลอดทดลองที่สวมกันอยู่ 2 ชั้น หลอดชั้นในมีน้ำบรรจุอยู่
เมื่อดูดอากาศออกสักพักปรากฏว่าเริ่มมีเกล็ดน้ำแข็งเกิดขึ้น
กระบวนการใดใช้อธิบายผลการทดลองนี้ได้
15 ) กราฟแสดงความสัมพันธ์ของความสามารถในการละลายน้ำของเกลือ
A, B, C และ D เป็นดังนี้
ข้อใดสรุปผิด
16 ) พิจารณากราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิกับพลังงานที่ให้แก่สาร
A 1 โมล
ข้อใดสรุปถูก
17 ) ถ้าต้องการให้ปริมาตรของก๊าซสัมบูรณ์ที่
STP เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า
โดยการลดความดันลง 25 % จะต้อง
ปล่อยให้ก๊าซนี้อยู่ที่อุณหภูมิกี่องศาเซลเซียส
18 ) ของเหลวบริสุทธิ์
A มีจุดเดือดต่ำกว่าของเหลวบริสุทธิ์ B เมื่อนำของเหลวทั้งสองมาผสมกันในอัตราส่วนหนึ่ง
ปรากฏว่าของเหลวผสมมีจุดเดือดคงที่ที่ต่ำกว่าทั้งของ
A และ B ลักษณะกราฟความดันไอของ A, B และ A + B ในข้อใดเป็นไปได้
19 ) ถ้าต้องการก้อนน้ำแข็งแห้งปริมาตร
2.5 dm3 1 ก้อน
จะต้องใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่บรรจุในถังจุ 50 dm3 ที่มีความดัน
15 atm จำนวนกี่ถัง กำหนดความหนาแน่นของน้ำแข็งแห้งเป็น 0.88
g/cm3
20 ) ในการศึกษาสมบัติการแพร่ของก๊าซ
ก และ ข ที่อุณหภูมิ 30 °C ได้ข้อมูลดังนี้
ก๊าช
มวลโมเลกุล
เวลา ( s)
ระยะทาง ( cm)
ก
x
30
a
ข
y
30
b
ถ้าผลการทดลองปรากฏว่าก๊าซ ก
แพร่ได้เร็วกว่าก๊าซ ข แล้ว ข้อใดถูกต้อง
21 ) ถ้าแยกสารละลายกรด เจือจางด้วยกระแสไฟฟ้า จะได้ก๊าซ และ ดังสมการรวม จากการทดลอง เก็บก๊าซทั้งสองไว้จนได้ก๊าซ 182 ที่
STP แล้วจึงถ่ายก๊าซทั้งหมดใส่ขวดแก้วสุญญากาศจุ 2 ที่อุณหภูมิ
27 °C ความดันของก๊าซในขวดแก้วขณะนี้เป็นกี่บรรยากาศ
22 ) ก๊าซไฮโดรเจน
4.0 g ผสมกับก๊าซฮีเลียมไม่ทราบน้ำหนักที่ STP ถ้าบรรจุก๊าซไฮโดรเจนลงไปในก๊าซผสมนี้อีก 10.0 g จะทำให้ปริมาตรของก๊าซผสมเพิ่มขึ้นเป็น
2 เท่า ในก๊าซผสมนี้จะมีก๊าซฮีเลียมกี่กรัม
23 ) ในการทดลองศึกษาผลของอุณหภูมิและความดันที่มีต่อปริมาตร
โดยเก็บก๊าซในกระบอกฉีดยาซึ่งปลายปิดสนิท ณ อุณหภูมิห้อง
ถ้าปริมาตรเปลี่ยนแปลงตามเวลาดังกราฟ แสดงว่าขั้นตอนการทดลองน่าจะเป็นดังข้อใด
(ช่วงที่ปริมาตรคงที่ในกราฟคือช่วงพักการทดลอง)
ข้อที่
ขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2
ขั้นที่ 3
1
เพิ่มความดัน
เพิ่มอุณหภูมิ
ลดความดัน
2
ลดความดัน
เพิ่มอุณหภูมิ
เพิ่มอุณหภูมิ
3
ลดอุณหภูมิ
เพิ่มความดัน
เพิ่มความดัน
4
เพิ่มความดัน
ลดอุณหภูมิ
เพิ่มอุณหภูม
24 ) พิจารณาข้อมูลและกราฟ
ถ้า เป็นอุณหภูมิห้อง
ข้อใดถูก
25 ) ถ้านำก๊าซชนิดหนึ่งมาทำให้ความดัน
ปริมาตรและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยให้มวลคงที่ค่าความดัน ( P) ปริมาตร ( V) และอุณหภูมิ ( T) ที่เกิดขึ้นใหม่ในข้อใดไม่ถูกต้อง
P
(atm)
V
T
(K)
1
คงเดิม
เพิ่มขึ้นเป็น 2
เท่า
เพิ่มขึ้นเป็น 2
เท่า
2
เพิ่มขึ้นเป็น 2
เท่า
ลดลงเป็น เท่า
คงเดิม
3
ลดลงเป็น เท่า
เพิ่มขึ้นเป็น เท่า
ลดลงเป็น เท่า
4
ลดลงเป็น เท่า
เพิ่มขึ้นเป็น 3
เท้า
ลดลงเป็น เท่า
26 ) กำหนดตารางแสดงอุณหภูมิ
ณ ความดันไอต่าง ๆ ของสาร ก. ข. และ ค. เป็นดังนี้
สาร
อุณหภูมิ ( °C)
ณ ความดันไอ
1
mm Hg
40
mm Hg
760
mm Hg
ก
-31.3
x
78.4
ข
a
34.1
c
ค
-2.3
19.0
d
ข้อใดถูกต้อง
a < 34.1 < c และ x > 19.0
-31.3 < x < 78.4 และ c > d
78.4 < c < d และ c > 34.1
-31.3 < a < -2.3 และ d > -2.3
27 ) ในการทดลองศึกษาสมบัติของก๊าซ
ได้ผลดังตาราง
ข้อใดถูกต้อง
28 ) ถ้าต้องการให้ปริมาตรของก๊าซสมบูรณ์ที่
STP เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
โดยการลดความดันลง 25 % จะต้องกระทำที่อุณหภูมิเท่าใด
29 ) ในการศึกษาสมบัติการแพร่ของก๊าซ และ ลำดับอัตราเร็วการแพร่ของก๊าซเป็นดังข้อใด
30 ) สารละลาย 1 มี
KCl ละลายอยู่แล้ว 45 g จากข้อมูลที่กำหนดให้
จะต้องเติม KCl ลงไปอีกกี่กรัม
จึงจะทำให้สารละลายอิ่มตัวที่ อุณหภูมิ 80 °C (สมมติให้ปริมาตรไม่เปลี่ยนแปลง)
31 ) จากกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความดันไอและอุณหภูมิของสาร
A , B , C ข้อใดถูก
32 ) ถ้าบรรจุกาซออกซิเจนและก๊าซไนโตรเจนมวลเท่ากัน
ลงในภาชนะ 2 ใบ ที่มีปริมาตรเท่ากัน และอุณหภูมิเดียวกัน
ข้อใดสรุปถูกต้อง
33 ) ถ้าก๊าซ X
, Y และ Z มีปริมาตรเท่ากัน
ภายใต้อุณหภูมิและความดันเดียวกัน ถ้า M แทนมวลโมเลกุล และ
R แทนอัตราการแพร่ของก๊าซ ข้อใดเป็นไปได้
34 ) ตารางแสดงจุดหลอมเหลวและจุดเดือดของสารบริสุทธิ์
4 ชนิดเป็นดังนี้
สาร
จุดหลอมเหลว ( °C)
จุดเดือด ( °C)
A
-100
-35
B
-7
58
C
-6
225
D
44
280
ที่อุณหภูมิห้องสารใดอยู่ในสถานะเป็นของเหลวที่ระเหยได้ง่าย
35 ) รูปต่อไปนี้แสดงการจัดเรียงตัวของโมเลกุลของสารที่ความดัน
1 atm แต่มีอุณหภูมิต่างกัน
รูปดังกล่าวแสดงการจัดเรียงตัวของโมเลกุล
36 ) กำหนดให้
สาร
อุณหภูมิ ( °C)
พลังงาน ( kJ/mol)
น้ำแข็ง
0
a
น้ำ
0
b
น้ำ
100
c
ไอน้ำ
100
d
ถ้าน้ำแข็งที่ 0 องศาเซลเซียสเปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำที่ 100
องศาเซลเซียสที่ความดัน 1 บรรยากาศจะต้องใช้พลังงานกี่กิโลจูลต่อโมล
37 ) คำชี้แจง ข้อมูลต่อไปนี้ประกอบการตอบคำถามข้อ
37
กระบวนการ
การเปลี่ยนแปลง
พลังงานที่ใช้
(
กิโลจูล )
1
น้ำแข็ง 5 กิโลกรัม เปลี่ยนเป็นน้ำที่ 5 กิโลกรัม ที่ 0 °C
a
2
น้ำ 10 กิโลกรัมที่ 25 °C ทำให้ร้อนขึ้นจนมีอุณหภูมิเป็น
50 °C
b
3
น้ำร้อน 100 °C 2 กิโลกรัมกลายเป็นไอน้ำที่ 2
กิโลกรัมที่ 100 °C
c
กำหนดให้ ค่าความร้อนแฝงของการหลอมเหลวของน้ำ
= 0.33 กิโลจูล/กรัม
ค่าความจุความร้อนของน้ำ = 4.2 กิโลจูล/กิโลกรัม.องศาเซลเซียส
ค่าความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอน้ำ = 2268 กิโลจูล/กิโลกรัม
จงเรียงลำดับกระบวนการที่ต้องการพลังงานที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงจากมากไปน้อย
38 ) พิจารณาแผนภาพการถ่ายเทพลังงานในการเปลี่ยนสถานะของน้ำที่ความดัน
1 บรรยากาศ
จงเลือกขั้นตอนที่มีการใช้พลังงานในรูปของความร้อนแฝง
39 ) เมื่อนำของแข็งไปหลอมเหลว
พลังงานจะถูกดูดเข้าไปเพื่ออะไร
40 ) ความแตกต่างของสิ่งใดที่มีผลให้กำมะถันมีรูปผลึกสองแบบ
41 ) ความดันไอของของเหลว
A , B , C เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ ดังกราฟ ข้อใดถูก
42 ) ภายใต้อุณหภูมิและความดันเดียวใดที่ก๊าซจริงประพฤติคล้ายกับเป็นก๊าซสมมติ
43 ) 43. แผนภาพต่อไปนี้แสดงการทดลองเพื่อศึกษาความดันไอของของเหลว
A , B และ C
พิจารณาข้อความต่อไป ก. ของเหลว B มีความดันไอสูงที่สุด ข. ของเหลว A มีจุดเดิอดต่ำที่สุด ค.ของเหลว C มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยกว่าของเหลว B
ง. ของเหลว A ระเหยยากกว่าของเหลว C ข้อใดสอดคล้องกับผลการทดลอง
44 ) ภาชนะ 2
ใบ ซึ่งมีปริมาตรเท่ากันบรรจุแก๊สต่างกัน ที่ความดันเดียวกัน
ข้อความต่อไปนี้ข้อใดถูก
45 ) ภาชนะ 2
ใบ มีแก๊สบรรจุอยู่ ถ้าทำให้ภาชนะใบที่ 1 มีอุณหภูมิสูงกว่าใบที่
2 ผลจากการทดลองพบว่าความเร็วเฉลี่ยของโมเลกุลของแก๊สในภาชนะทั้งสองเท่ากัน
จะสรุปผลการทดลองนี้ได้อย่างไร
คำชี้แจง ข้อความต่อไปนี้ใช้ตอบคำถามข้อ 46 – 47
กระเปาะ A จุ 3 ลิตร
กระเปาะ B จุ 2 ลิตร
เชื่อมต่อกันด้วยหลอดแก้วขนาดเล็กมาก มีลิ้นปิดเปิดแต่ละด้าน
มีหน้าปัดอ่านค่าความดันภายใน
46 ) ถ้ากระเปาะ
A บรรจุก๊าซที่มีความดัน 1 บรรยากาศ
ส่วนภายในกระเปาะ B เป็นสูญญากาศ
เมื่อเปิดลิ้นให้ต่อถึงกัน ความดันภายในภาชนะจะเป็นกี่บรรยากาศ
47 ) ถ้ากระเปาะ
A บรรจุแก๊ส NO ที่ความดัน 1 บรรยากาศ และกรเปาะ B บรรจุแก๊ส O2 ที่ความดัน 1 บรรยากาศ
แล้วเปิดลิ้นให้ต่อถึงกันความดันภายในภาชนะจะเป็นกี่บรรยากาศ
48 ) นักเรียนกลุ่มหนึ่งศึกษาเรื่องการแพร่ของแก๊สโดยนำขวดปากแคบขนาดเท่ากัน
แต่ละขวดบรรจุของเหลว 1 ชนิด ปริมาตร 1 cm3 ซึ่งอยู่ในภาวะสมดุลของไอของของเหลวนั้นไปวางที่มุมห้องๆ ละ 1 ขวด แต่ละห้องมีเครื่องตรวจวัดว่าไอของสารแพร่ไปได้เป็นระยะเท่าใดที่เวลาต่าง
ๆ เมื่อเปิดขวดทิ้งไว้ครึ่งนาที
ก็วัดระยะที่ไอของของเหลวแพร่ไปถึงพร้อมทั้งสูดกลิ่นของสารในห้องนั้น
ข้อใดสรุปถูกต้อง
49 ) ภาชนะบรรจุแก๊สต่อถึงกันดังรูป
เมื่อเปิดลิ้น A และ B ที่สมดุลใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
50 ) เมื่อบรรจุแก๊ส
3 ชนิด คือ แอมโมเนีย ออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์
ในลูกโป่ง 3 ใบ ใบละชนิด
โดยควบคุมให้ลูกโป่งมีปริมาตรเท่ากัน แล้วปล่อยลูกโป่งทั้ง 3 ใบ ไว้ค้างคืนในห้องที่ควบคุมอุณหภูมิและความดันให้คงที่
วันรุ่งขึ้นพบว่าลูกโป่งทุกใบมีขนาดเล็กลง
ลูกโป่งที่บรรจุแก๊สแอมโมเนียมีขนาดเล็กสุด
ส่วนลูกโป่งที่บรรจุแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีขนาดใหญ่สุด พิจารณาข้อสรุปต่อไปนี้
ก. มีการแพร่ของแก๊สเกิดขึ้น ข. อัตราการแพร่ของแก๊สเป็นดังนี้ ค. คาร์บอนไดออกไซด์มีมวลโมเลกุลมากจึงแพร่ได้ช้า ง.
แอมโมเนียสร้างพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล ปริมาตรของแก๊สจึงลดลง